Community Garden
Community garden project
‘โครงการสวนผักชุมชนจักรพรรดิพงษ์’
กว่าครึ่งหนึ่งของรายได้ของเราถูกใช้กับ ‘อาหาร’ โดยเฉพาะสังคมเมือง ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่มีวิถีชีวิตเป็น ‘ผู้บริโภค’ อย่างเดียว
Objective
เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพและทำให้คนเมืองอย่างเรามีความยืดหยุ่นต่อการขาดแคลนอาหารได้มากขึ้น พวกเรา– Urban Studies Lab (ศูนย์วิจัยชุมชนเมือง) เล็งเห็นความสำคัญในการจัดทำสวนผักชุมชนผ่านการเปลี่ยนแปลงการใช้พื้นที่ในเมือง จึงนำมาสู่กิจกรรมเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่อย่าง ‘โครงการสวนผักชุมชนจักรพรรดิพงษ์’
IMPACTS
1
Replicable Model
25
Participants
3
Outputs
3
Knowledge Sharing
‘ชุมชนจักรพรรดิพงษ์’ เพื่อนบ้านย่านนางเลิ้งของเรา มีลักษณะเป็นชุมชนแออัดและมีพื้นที่ใช้สอยน้อย ถึงอย่างนั้นพี่ๆ ในชุมชนสนใจปลูกผักนะ! เราจึงเห็นความเป็นไปได้ในการพัฒนาชุมชนจักรพรรดิพงษ์ให้เป็นพื้นที่ต้นแบบสวนผักชุมชนในพื้นที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เพื่อทดลองทำสวนผักชุมชนในพื้นที่จำกัด ควบคู่ไปกับการอบรมพัฒนาทักษะการทำเกษตรในเมือง ฟังดูน่าสนุกใช่ไหมล่ะ ก็สนุกจริง! แถมยังได้สาระอีกนะ ตามไปอ่านกันเลย : )
ก่อนอื่น…เราขอเกริ่นถึงกระบวนการทำงานสักหน่อย ทีมวิจัยของ Urban Studies Lab เริ่มจากการสำรวจพื้นที่ ออกแบบวางแผนโครงการ และสอบถามความสนใจกับคุณลุงคุณป้าในชุมชน พวกเราได้ข้อมูลว่าพื้นที่บริเวณชุมชนจักรพรรดิพงษ์มีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ในการปลูกผัก จึงนำไปสู่การริเริ่มทำสวนแนวตั้งเพื่อเพิ่มพื้นที่ปลูก และได้เข้าไปติดตั้งใน 3 บริเวณ ได้แก่ บ้านป้าจิ๋ว บ้านป้าอ้อย และบ้านป้ากลม และแปลงผักคุณครูพร ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน
วางแผนกิจกรรมเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็กลับไปอีกครั้ง! ด้วยสองมือที่ไม่ว่างเปล่า….📖🍃 ตารางกิจกรรมแบบเน้นๆ เพราะเรามีเวิร์กชอปสวนผักชุมชนจักรพรรดิพงษ์ 2 ส่วนหลักๆ ด้วยกัน
หนึ่ง เวิร์กชอปสำหรับเด็กศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน
เราให้เด็กๆ ในชุมชนได้ทำความรู้จักกับผักสวนครัวชนิดต่าง ๆ และได้มีส่วนในการออกแบบแปลงผักของศูนย์ฯ รวมถึงได้ทดลองปลูกจริงด้วยนะ
.
สอง เวิร์กชอปการปลูกผักในพื้นที่จำกัดร่วมกับ PLANT:D
จากแบบสอบถาม พบว่าที่ผ่านมาคุณลุงคุณป้าปลูกผักแล้วรอดบ้างไม่รอดบ้าง เพราะยังไม่รู้วิธีปลูกที่ถูกต้อง รวมถึงชนิดของผักที่เหมาะสมกับพื้นที่ของตนเอง ทางเราจึงเชิญวิทยากรจาก PLANT:D เป็นผู้เชี่ยวชาญในการปลูกผักในเมือง เข้ามาสอนวิธีการปลูกผักฉบับมือใหม่ โดยกิจกรรมทั้ง 5 สัปดาห์มีเนื้อหาสนุกๆ ได้แก่
การปรุงดินสำหรับเพาะเมล็ด การหมักดินสำหรับปลูกผัก
การทำจุลินทรีย์บำรุงผักจากของเหลือใช้ในครัว การทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหาร
การทำสมุนไพรไล่แมลงอย่างง่าย
การเพาะเลี้ยงเห็ด
การย้ายกล้าผัก การพรวนดินใส่ปุ๋ย
การออกแบบแปลงผักรวม ทำค้าง สวนแนวตั้ง และย้ายกล้าผักลงแปลงรวม
จบเวิร์กชอปแล้ว พวกเราศูนย์วิจัยชุมชนและทีมวิทยากร ยังคงติดตามการปลูกผักของพี่ๆ ชุมชนต่อประมาณ 1 เดือนพร้อมช่วยปรับปรุงพื้นที่และทำสวนแนวตั้งเพิ่มเติมในชุมชน
หลังจากเวิร์กชอปการปลูกผักในพื้นที่จำกัดร่วมกับ PLANT:D พวกเราพบว่า
คุณลุงคุณป้าในชุมชนได้มีพื้นที่ในการพูดคุย แลกเปลี่ยน แบ่งปัน และโชว์ผักที่ปลูกกันในทุกสัปดาห์อย่างสนุกสนาน แต่ละคนรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมาก
ชุมชนจักรพรรดิพงษ์มีความเหมาะสมกับ ‘สวนแนวตั้ง’ เนื่องจากมีพื้นที่จำกัด บางบ้านก็เหมาะกับการเพาะต้นอ่อนเพราะไม่โดนแดด บางบ้านก็เหมาะกับการปลูกผักสวนครัวเพราะโดนแดดตลอดเวลา
แม้การปลูกผักในชุมชนจะยังไม่สามารถสร้างรายได้ แต่ทำให้ชุมชนได้แบ่งปันผลผลิตซึ่งกันและกัน เกิดความมั่นคงทางอาหารมากขึ้น
การเลี้ยงเห็ดในชุมชน ต้องทำให้มีความชุ่มชื้นตลอดเวลา ควรตั้งไว้ภายในบ้านเพื่อหลักเลี่ยงแสงแดด
อุปสรรคที่เราอาจคาดไม่ถึงระหว่างการทำงาน นั่นคือ ‘แมว’ ซึ่งชอบขึ้นมานอนบนแปลงผักและขับถ่าย จึงต้องปรับปรุงดินที่เสียหายจากแมว และคลุมตาข่ายกันแมว
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำโครงการสวนผักชุมชน สามารถแบ่งออกเป็น 4P: 4 ด้านที่สอดคล้องกับพันธกิจของศูนย์วิจัยชุมชนเมือง ได้แก่
นโยบาย (Policy)
เกิดพื้นที่ต้นแบบสวนผักชุมชนในพื้นที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
เกิดคู่มือการปลูกผักในชุมชน 1 ชุด
กระบวนการ (Process)
สมาชิกในชุมชนสามารถเรียนรู้การปลูกผักในชุมชนได้
สร้างความตระหนักรู้ในประเด็นการทำสวนผักในเมือง ได้รับความสนใจจากผู้คนหลายวัย เกิดกิจกรรมการมีส่วนร่วมในชุมชน เสริมสร้างความเข้มแข็งในชุมชน
ลดรายจ่ายในครัวเรือน มีศักยภาพในการเกิดเป็นช่องทางสร้างรายได้ต่อไป รวมถึงการขยายผลไปยังชุมชนอื่นๆ
เด็กๆ ในชุมชนได้เรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกผักเบื้องต้น และมีพื้นที่ทดลองปลูกผักในชุมชน
คุณครูได้ผลผลิตจากแปลงผักนำไปประกอบอาหารกลางวันให้เด็กๆ ในศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน
ผู้คน (People)
จำนวนผู้เข้าร่วมเวิร์กชอปสำหรับเด็กศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน มีเด็กๆ จำนวน 20 คน คุณครู 1 คน
จำนวนผู้เข้าร่วมเวิร์กชอปการปลูกผักในพื้นที่จำกัดร่วมกับ PLANT:D มีสมาชิกในชุมชนจักพรรดิพงษ์สนใจจำนวน 5 คน โดยเป็นผู้สูงอายุในชุมชน
สถานที่ (Place)
เกิดพื้นที่สวนผักแนวตั้งในชุมชนทั้งหมด 3 แห่ง ได้แก่ บ้านป้าจิ๋ว บ้านป้าอ้อย และบ้านป้ากลม และพื้นที่แปลงผักบริเวณศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน 1 แห่ง สามารถกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
สรุปผลโครงการ
กระบวนการ | ผลผลิต | ผลลัพธ์ | |
1 | สำรวจพื้นที่และออกแบบวางแผนโครงการ | แผนโครงการสวนผักชุมชนจักรพรรดิพงษ์ | ความเข้าใจบริบทของพื้นที่ และความเป็นไปได้ของโครงการ |
2 | ลงพื้นที่สอบถามความสนใจในการเข้าร่วมโครงการ | มีการเก็บข้อมูลแบบสอบถามก่อนทำเวิร์กชอป 1 ครั้ง | ความเข้าใจความต้องการของชุมชนเกี่ยวกับการปลูกผักในชุมชน รวมถึงพันธุ์พืชที่สนใจปลูก |
3 | ติดตั้งสวนแนวตั้งเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการปลูกผักในชุมชน - บ้านป้าจิ๋ว - บ้านป้าอ้อย - บ้านป้ากลม | พื้นที่สวนผักแนวตั้งในชุมชนทั้งหมด 3 แห่ง | ชุมชนจักรพรรดิพงษ์มีความเหมาะสมในการจัดทำสวนแนวตั้งเนื่องจากมีพื้นที่จำกัด และเหมาะกับการปลูกต้นอ่อนมากกว่าต้นกล้า เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ |
4 | เวิร์กชอปสวนผักชุมชนจักรพรรดิพงษ์ 1. เวิร์กชอปสำหรับเด็กศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน 2. เวิร์กชอปการปลูกผักในพื้นที่จำกัดร่วมกับ PLANT:D | เวิร์กชอปสำหรับเด็กศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน - จำนวนผู้เข้าร่วมเวิร์กชอปสำหรับเด็กศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน มีเด็กๆ จำนวน 20 คน คุณครู 1 คน เวิร์กชอปการปลูกผักในพื้นที่จำกัดร่วมกับ PLANT:D - จำนวนผู้เข้าร่วมเวิร์กชอปการปลูกผักในพื้นที่จำกัดร่วมกับ PLANT:D มีสมาชิกในชุมชนจักพรรดิพงษ์สนใจจำนวน 5 คน โดยเป็นผู้สูงอายุในชุมชน | เวิร์กชอปสำหรับเด็กศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน
เวิร์กชอปการปลูกผักในพื้นที่จำกัดร่วมกับ PLANT:D
|
5 | ติดตามผลการผลิตและการปลูก | สื่อการประชาสัมพันธ์และแนะนำกิจกรรม 2 ชุด โดยมียอดเข้าชมรวมทั้งหมด 1,419 คน (นับวันที่ 2 เมษายน 2567) | พบอุปสรรคระหว่างการทำงาน 1. แมวทำลายแปลงผัก วิธีแก้คือเปลี่ยนรูปแบบของสวนใหม่ มีตะแกรงกั้นแมว 2. ชุมชนปลูกเห็ดไม่ขึ้น ชุมชนถอดใจ สรุปก็เลยเลือกที่จะไม่ปลูกเห็ด เปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นที่เหมาะสมกับชุมชนมากกว่า 3. บางครัวเรือนไม่มีเวลาดูแลแปลงผัก ฝากคนอื่นรดน้ำให้ |
6 | วิเคราะห์พื้นที่และแนวทางในการพัฒนาโครงการต่อ | แผนพัฒนาโครงการต่อ โดยอาจขยายผลไปยังชุมชนอื่นๆ ใกล้เคียง เพื่อสร้างกิจกรรมการมีส่วนร่วมกับผู้สูงอายุ ร่วมกับ FREC Bangkok (ศูนย์การเรียนรู้ฟอร์ดเพื่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม) | ความเข้าใจในการพัฒนาสวนแนวตั้งในชุมชนต่อๆ ไป |
นอกจากนี้ ยังมี ‘คู่มือสวนผักชุมชน: รวมเทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ผักมีการเจริญเติบโตที่ดี แข็งแรง’ โดยทาง Urban Studies Lab เป็นผู้จัดทำ และเนื้อหาโดย PLANT:D เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์กับผู้ที่สนใจเริ่มต้นปลูกผัก อ่านง่าย เข้าใจง่าย มีภาพประกอบด้วยน้า
พวกเรา Urban Studies Lab มีแนวทางในการพัฒนาโครงการต่อ โดยอาจขยายผลไปยังชุมชนอื่นๆ ใกล้เคียง เพื่อสร้างกิจกรรมการมีส่วนร่วมกับผู้สูงอายุ ร่วมกับ FREC Bangkok (ศูนย์การเรียนรู้ฟอร์ดเพื่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม) ต่อไป 🧺🥬